เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
- สัตว์เลี้ยงที่นำไปด้วย มีเพียงสุนัข แมว และกระต่ายเท่านั้นที่ขนส่งไปกับเที่ยวบินของ EVA Air โดยโหลดเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่องในห้องเก็บสินค้าได้ ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องโดยสาร ยกเว้นสุนัขนำทางที่โดยสารพร้อมผู้โดยสารทุพพลภาพ
- ไม่อนุญาตให้มีการขนส่งสัตว์มีครรภ์และสัตว์ที่มีอายุต่ำกว่า 4 เดือน
- ผู้โดยสารแต่ละท่านที่มีบัตรโดยสารที่นั่งสามารถเช็คอินสัตว์เลี้ยงได้สูงสุด 2 กรง ยกเว้นผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง หากประเทศหรือภูมิภาคที่เดินทางมาถึงหรือเปลี่ยนเครื่องมีข้อจำกัดสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เข้มงวดกว่า ให้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของประเทศหรือภูมิภาคนั้น
- อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโดยสารไปกับเครื่องได้เฉพาะกับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ดำเนินการโดย EVA/UNI Air เท่านั้น หากมีสายการบินอื่นรวมอยู่ในแผนการเดินทางของคุณด้วย กรุณาติดต่อสายการบินนั้น ๆ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- หากคุณต้องเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง โปรดแจ้งให้พนักงานฝ่ายสำรองที่นั่งทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้ โปรดดาวน์โหลดและกรอกเอกสาร “คำประกาศของผู้โดยสารสำหรับสัตว์มีชีวิต” สองชุดและยื่นที่สนามบินในระหว่างเช็คอินสัตว์เลี้ยงของคุณ
- ผู้โดยสารมีหน้าที่รับผิดชอบในการมอบใบรับรองด้านสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่ถูกต้องเพิ่มเติมจากเอกสารอื่นๆ ที่อาจต้องใช้ในประเทศที่ออกเดินทาง ผ่านหรือเข้าประเทศเมื่อเดินทางกับสัตว์เลี้ยง เจ้าหน้าที่สนามบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการรับขนส่งสัตว์เลี้ยงของคุณหากไม่เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งของ EVA Air รวมถึงสุขภาพและความปลอดภัยของสัตว์
- เพื่อให้การนำสัตว์เลี้ยงเดินทางโดยโหลดเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่องดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมกับสัตว์เลี้ยงควรเช็คอินที่เคาน์เตอร์อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เนื่องด้วยระยะเวลาในการดำเนินการและระยะทางสำหรับการจัดส่งสัตว์เลี้ยงที่สนามบินลอนดอนฮีทโธรว์ คุณควรดำเนินการตามขั้นตอนเช็คอินให้เสร็จเรียบร้อยเป็นเวลา 2.5 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
ข้อจำกัดด้านเส้นทางและประเภทของเครื่องบิน
อนุญาตให้ขนส่งได้ 5 กรง ต่อเที่ยวบิน ยกเว้น A321 และ B787 เส้นทางและเครื่องบินบางประเภทไม่สามารถรับสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องหรือมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนของสัตว์เลี้ยง สำหรับรายละเอียด โปรดติดต่อพนักงานสำรองที่นั่งของเรา
A321
- ไม่อนุญาตให้โหลดสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
B787
- เที่ยวบินระยะไกล: ไม่อนุญาตให้โหลดสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่อง (รวมถึง ยุโรป อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย)
- เที่ยวบินระยะใกล้: กรงสัตว์ 2 กรงในแต่ละเที่ยวบิน
ข้อจำกัด
สุนัข/แมวที่มีสายพันธุ์หน้าสั้นและพันธุ์ “ผสม” ต่อไปนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่เขตซีกโลกเหนือ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม ที่เขตซีกโลกใต้ ห้ามเดินทางไปยัง/ผ่าน/ออกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดทั้งปี
สุนัข
- อาฟเฟ็นพิ้นเชอร์
- บอสตันเทอร์เรีย
- บ็อกเซอร์ (ทุกสายพันธุ์)
- บรัสเซลส์กริฟฟิน
- บูลด็อก (ทุกสายพันธุ์)
- บูลเทอร์เรีย
- ปั๊ก (ทุกสายพันธุ์)
- เชาเชา
- ด็อจ เด บอร์โดซ์
- อิงลิชทอยสแปเนียล
- เจแปนนิส ชิน/ เจแปนนิส สแปเนียล/ ชินชิน
- คาวาเลียร์คิงชาร์ลสเปเนียล
- ลาซาแอปโซ
- มาสทิฟฟ์ (ทุกสายพันธุ์)
- ปักกิ่ง
- ปรีซ่า คานาริโอ
- ชาห์เป
- ชิห์สุ
- ทิเบตัน สแปเนียล
แมว
- เบอร์มีส
- หิมาลายัน
- เปอร์เซีย (เช่น ชินชีลา)
- แมวเอ็กโซติค ช็อตแฮร์
ประเทศที่ห้ามขนส่ง
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปนี้เป็นเขตห้ามขนส่งสุนัข/แมวสายพันธ์หน้าสั้น (จมูกสั้น) ตลอดทั้งปี
- กัมพูชา
- อินโดนีเซีย
- มาเลเซีย
- ฟิลิปปินส์
- สิงคโปร์
- ไทย
- เวียดนาม
โปรดทราบ: แผนการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดังข้างต้นในทุกเส้นทางจะไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน
- ตัวอย่างที่ 1: เส้นทางลอสแอนเจลิส ไทเป-ไทเป ลอนดอน (ไม่อนุญาตให้ขนส่งได้เนื่องจากเส้นทางไทเป/ลอนดอน)
- ตัวอย่างที่ 2: เส้นทางลอสแอนเจลิส ไทเป-ไทเป มะนิลา (ไม่อนุญาตให้ขนส่งได้เนื่องจากมีจุดหยุดพักในมะนิลา)
- เส้นทางไทเป-ปารีสและปารีส-ไทเป สามารถขนส่งได้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ห้ามให้ขนส่งเนื่องจากเป็นเที่ยวบินตรง
- ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในรายการข้างต้น ช่วงเวลาการห้ามขนส่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายนสำหรับซีกโลกเหนือ และระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมสำหรับซีกโลกใต้ของทุกปี
สุนัขอันตราย
สุนัขสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายและสุนัขข้ามสายพันธุ์ดังต่อไปนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งตลอดทั้งปี
- อเมริกันพิทบูล (เทอร์เรีย)
- อเมริกันสแตฟฟอร์ดเชียร์
- เทอร์เรีย ฟิล่า บราซิลเลียโรส์
- เจแปนนิสโทสะ
- พิทบูล เทอร์เรีย
- โดโก้ อาร์เจนติโน่ (อาร์เจนทีน มาสทิฟฟ์)
- เคน คอร์โซ่
ข้อจำกัดของรัฐบาล
โปรดทราบว่าข้อจำกัดเกี่ยวกับข้อบังคับในการขนส่งสัตว์เลี้ยงจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นโปรดให้แน่ใจที่จะยืนยันข้อมูลการกักตัวที่ปลายทางและระเบียบข้อบังคับในการเข้าประเทศของคุณก่อนเดินทาง
- สหรัฐอเมริกา: ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงไปยังสหรัฐอเมริกา สามารถดูข้อมูลอ้างอิงได้ที่การนำสัตว์เข้าประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา(CDC)ยังมีข้อบังคับใหม่ในการนำสุนัขเข้าสหรัฐอเมริกาในวันที่หรือหลังวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ก่อนเดินทางผู้โดยสารควรกรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วนและเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มิฉะนั้นแล้วสุนัขของคุณอาจไม่ได้เดินทางพร้อมคุณ รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูที่เว็บไซต์ของ CDC ในหัวข้อ"ต้องเตรียมอะไรบ้างเมื่อนำสุนัขเข้าสหรัฐอเมริกา"
- ไต้หวัน R.O.C.: มาตรา 119-3 ของพระราชบัญญัติการบินพลเรือนของไต้หวัน ROC ระบุว่าบุคคลใดนำสัตว์เข้าไปในสนามบิน ซึ่งเป็นการรบกวนต่อสุขภาพ ความเป็นระเบียบ และความปลอดภัย จะต้องเสียค่าปรับตั้งแต่ NT 5,000 ถึง NT 25,000 ผู้ดำเนินกิจการสนามบินอาจร่วมกับสำนักงานกองบินตำรวจบังคับให้เขาหรือเธอต้องออกจากสนามบินได้
- ออสเตรเลีย: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าบริสเบนเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสารหรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงออกจากบริสเบนได้ อนุญาตให้นำสุนัขช่วยมอง/ช่วยฟัง เดินทางพร้อมกับผู้โดยสารที่มีความบกพร่องทางสายตาหรือการได้ยิน ไปยัง/มาจากห้องโดยสารโดยการจูงได้
- สหราชอาณาจักร: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงและสุนัขช่วยมอง/ช่วยฟังเข้าสหราชอาณาจักรโดยเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสาร หรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้า แต่จะสามารถนำออกจากสหราชอาณาจักรโดยเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้าได้เท่านั้น โปรดทราบว่า เมื่อเดินทางออกจากสนามบินฮีทโธรว์ ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมด้วยสัตว์เลี้ยงจะต้องเช็คอินที่เคาน์เตอร์เป็นเวลา 2.5 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- ฮ่องกง: อนุญาตให้เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องสำหรับเที่ยวบินที่บินออกจากฮ่องกงเท่านั้น ส่วนเที่ยวบินที่บินเข้าฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม สุนัขนำทาง/สุนัขช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับผู้ทุพพลภาพจะได้รับอนุญาตให้โดยสารไปกับผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่บินเข้า/ออกจากฮ่องกง ก่อนที่จะนำสุนัขนำทาง/สุนัขช่วยเหลือเข้าฮ่องกง ผู้โดยสารต้องเตรียมใบรับรอง เอกสารกักกัน และต้องได้รับจดหมายอนุมัติจากกรมการเกษตร ประมงและการอนุรักษ์ของฮ่องกงเพื่อที่จะสามารถนำสุนัขติดตามเข้าไปในห้องโดยสารด้วยได้ระหว่างที่แวะเปลี่ยนเครื่องหรือเดินทางเข้าประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมการเกษตร ประมงและการอนุรักษ์
- จีน: ตามคำแถลงข้อที่ 5 ของปี 2019 จากสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ประกาศในเรื่องการควบคุมการเข้าและการกักกันสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม) สัตว์เลี้ยงที่ผ่านการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด รวมถึงการฝังไมโครชิปที่เดินทางเข้าประเทศจีนจากประเทศที่กำหนดหรือประเทศที่ไม่ได้กำหนดไว้ (เช่น ไต้หวัน) จะไม่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 30 วันและสามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้โดยตรงเมื่อเดินทางมาถึง โปรดคลิกที่นี่สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้โดยสารแต่ละท่านสามารถนำสุนัขหรือแมวมาได้เพียงตัวเดียวต่อครั้งเท่านั้น คุณสามารถติดต่อด่านกักกันของสนามบินเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการเดินทาง
- แคนาดา: หน่วยงานบริการชายแดนแคนาดา (CBSA) มีกฎระเบียบพิเศษสำหรับการขนส่งสัตว์ที่มีชีวิตเชิงพาณิชย์ (รวมถึงสุนัขที่ถูกส่งไปเพื่อการรับเลี้ยง) โปรดคลิก การนำเข้าหรือเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ขอรับกฎระเบียบเฉพาะประเทศและเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมได้จาก IATA's Traveler's Pet Corner
สัตว์เลี้ยงที่นับเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (AVIH)
อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเดินทางทางอากาศได้ เมื่อขนส่งในกรงซึ่งต้องมีลักษณะเป็น
- กรงสัตว์เลี้ยงตามข้อบังคับของ IATA ซึ่งต้องทำจากวัสดุพลาสติกแข็งและมีเพียงประตูเดียวสำหรับให้สัตว์เลี้ยงเข้า/ออก สามารถป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงหลุดออกมาหรือป้องกันกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงได้
- มีช่องระบายอากาศที่เปิดออกได้มากกว่าหนึ่งด้าน มองเห็นได้ง่ายว่าเป็นกรงสัตว์ มีวัสดุดูดซับความชื้นคลุมด้านล่างหรือพื้นของกรง
- เพื่อเป็นการเพิ่มการป้องกัน บานประตูทั้งสี่ด้านของกรงสัตว์ต้องมีซิปรูดปิดหรือเสริมตาข่าย/สายรัดนอกกรง
- ก่อนขนส่ง โปรดให้แน่ใจว่าได้ถอดล้อของกรงออกเรียบร้อยแล้วเพื่อป้องกันการลื่นไหลระหว่างขนส่ง
- ความสูง: ความสูงของสัตว์ในตำแหน่งยืนโดยไม่สัมผัสกับหลังคากรง
- ความยาว: ตั้งแต่จมูกไปจนถึงโคนหาง บวกกับความสูงครึ่งหนึ่งจากพื้นไปจนถึงข้อศอก
- ความกว้าง: สองเท่าของหัวไหล่ทั้งสองข้างของสัตว์
- สัตว์แต่ละตัวในกรงจะต้องมีพื้นที่เพียงพอให้หมุนกลับตัวได้ตามปกติในขณะยืน เพื่อที่จะยืนและนั่งตัวตรง และนอนในท่าที่เป็นธรรมชาติได้
- ต้องมีอาหารและน้ำเพียงพอในช่องใส่อาหารที่เหมาะสมและต้องยึดไว้กับกรงอย่างแน่นหนา
- โปรดดูตัวอย่างต่อไปนี้ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานกรงสัตว์เลี้ยงของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)
- ตัวอย่างกรงสัตว์ที่ไม่เหมาะสม: กรงสัตว์ที่ทำจากตระแกรงปิดตายทั้งหมด ตาข่ายลวด เครื่องจักรสาน กระดาษแข็ง หรือวัสดุที่ยุบตัวได้ และห้ามมีประตูเข้า/ออก 2 ทางอย่างเด็ดขาด
- ห้องที่จะนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปเก็บไว้จะมีความดันและอุณหภูมิเช่นเดียวกันกับห้องโดยสารของผู้โดยสาร
- จำนวนสัตว์เลี้ยงที่อนุญาตต่อหนึ่งกรงมีดังนี้
- น้ำหนักของสัตว์เลี้ยงและกรงรวมกัน > 14 กก. (31 ปอนด์): สัตว์เลี้ยง 1 ตัวต่อ 1 กรง
- อายุสัตว์เลี้ยง ≧ 4 สัปดาห์ และน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงและกรงรวมกัน ≤ 14 กก. (31 ปอนด์): ให้มีสัตว์เลี้ยงได้สูงสุด 2 ตัวโดยมีขนาดตัวใกล้เคียงกันต่อกรง (แมว 2 ตัว สุนัข 2 ตัว หรือกระต่าย 2 ตัว)
- หมายเหตุ: ขนาดของกรงควรสัมพันธ์กับขนาดของสัตว์ตัวที่ใหญ่ที่สุด หากสัตว์สองตัวอยู่ในกรงเดียวกัน ขนาดของกรงจะต้องเท่ากับ 3 เท่าของความกว้างของสัตว์ตัวที่ใหญ่ที่สุด หากน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงและกรงรวมกันแล้วเกิน 14 กก. สัตว์แต่ละตัวจะต้องมีกรงของตัวเอง
ค่าธรรมเนียม
สัตว์เลี้ยงของคุณและกรงที่โหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นสัมภาระส่วนเกิน และไม่นับรวมอยู่ในส่วนของสัมภาระที่อนุญาตให้ฟรีของคุณ อย่างไรก็ตาม สุนัขช่วยเหลือที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารทุพพลภาพในห้องโดยสารนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย
คิดตามน้ำหนัก
- น้ำหนัก (รวมกรง) ≦ 32 กก. (70 ปอนด์): ใช้อัตราค่าธรรมเนียมกระเป๋าสัมภาระส่วนเกินเท่ากับ 2 ยูนิต
- น้ำหนัก (รวมกรง) > 32 กก. (70 ปอนด์): ใช้อัตราค่าธรรมเนียมกระเป๋าสัมภาระส่วนเกินเท่ากับ 4 ยูนิต
หมายเหตุ:
- ไม่มีค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับขนาดของกรง
- ขนาดของกรง > 292 ซม. (115 นิ้ว): ไม่สามารถโหลดเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้
- น้ำหนัก (รวมกรง) ที่มากกว่า 50 กก. (110 ปอนด์) ต้องได้รับการอนุมัติจาก EVA Air ก่อนออกเดินทาง มิฉะนั้นแล้วอาจถูกปฎิเสธที่จะรับเป็นกระเป๋าสัมภาระสำหรับเช็คอิน
โปรดดูที่ตารางค่าธรรมเนียมกระเป๋าสัมภาระส่วนเกินเพื่อตรวจสอบค่าธรรมเนียมสำหรับสัตว์เลี้ยง หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อฝ่ายสำรองที่นั่งของ EVA หรือตัวแทนท่องเที่ยวของคุณเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม