เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
- สัตว์เลี้ยงที่นำไปด้วยและสามารถขนส่งไปกับเที่ยวบินของ EVA Air เป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้าได้มีเพียงสุนัข แมว และกระต่ายเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องโดยสารยกเว้นสุนัขช่วยเหลือที่พาขึ้นเครื่องไปพร้อมกับผู้โดยสารทุพพลภาพ
- สัตว์มีครรภ์และสัตว์ที่มีอายุน้อยกว่า 4 เดือนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่ง
- ผู้โดยสารแต่ละท่านที่มีที่นั่งสามารถเช็คอินพร้อมกับกรงสัตว์เลี้ยงได้สูงสุด 2 กรง ยกเว้นผู้โดยสารเด็กซึ่งเดินทางโดยลำพัง หากประเทศ/ภูมิภาคที่ไปถึงหรือระหว่างต่อเครื่องมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เข้มงวดกว่า ให้ถือปฏิบัติตามนั้น
- ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโดยสารได้หากแผนการเดินทางของผู้โดยสารมีเที่ยวบินของสายการบินอื่นรวมอยู่ด้วย และจะได้รับอนุญาตให้เดินทางในเที่ยวบินระหว่างประเทศซึ่งดำเนินการโดยตรงโดย EVA Air/UNI Air เท่านั้น
- หากคุณมีคำขอการเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำรองที่นั่งอย่างน้อยที่สุด 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง พร้อมกันนี้ให้ดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์ม “ใบสำแดงสัตว์มีชีวิตสำหรับผู้โดยสาร” ทำสำเนาและยื่นที่สนามบินเมื่อเช็คอินสัตว์เลี้ยงของคุณ
- เมื่อเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง ผู้โดยสารมีหน้าที่รับผิดชอบในการมอบใบรับรองด้านสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง ตลอดจนเอกสารอื่น ๆ ที่อาจจะต้องใช้ในประเทศที่เดินทางออก เดินทางผ่าน หรือเดินทางถึง เจ้าหน้าที่ที่สนามบินสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการขนส่งสัตว์เลี้ยงของคุณหากการดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งของ EVA Air ตลอดจนเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยของสัตว์
- เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการให้สัตว์เลี้ยงเดินทางเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมกับสัตว์เลี้ยงควรเช็คอินที่เคาน์เตอร์สนามบิน 2 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เนื่องด้วยระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการและระยะทางสำหรับการจัดส่งสัตว์เลี้ยงในสนามบินฮีทโธรว์ลอนดอน คุณควรดำเนินการตามขั้นตอนเช็คอินให้เสร็จเรียบร้อยเป็นเวลา 2.5 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- เนื่องจากความจำเป็นในการปรับเปลี่ยน วิธีการทำความสะอาดเครื่องบินโดยสารในช่วงของโรคระบาด ดังนั้น EVA Air จึงขอระงับการให้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงสำหรับเที่ยวบินไปยังจีน ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ข้อจำกัดด้านเส้นทางและประเภทของเครื่องบิน
ในแต่ละเที่ยวบิน อนุญาตให้มีกรงสัตว์เลี้ยงได้ 5 กรงยกเว้นเครื่องโดยสาร A321 และ B787 ในบางเส้นทางและเครื่องบินบางประเภทจะไม่สามารถรับสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องได้หรืออาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนของสัตว์เลี้ยง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อพนักงานสำรองที่นั่งของเรา
A321
- ไม่รับสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง
B787
- เที่ยวบินระยะไกล: ไม่รับสัตว์เลี้ยงเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง (รวมถึง ยุโรป อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย)
- เที่ยวบินระยะใกล้: กรงสัตว์ 2 กรงในแต่ละเที่ยวบิน
ข้อจำกัด
สุนัข/แมวที่มีสายพันธ์หน้าสั้นและพันธุ์ “ผสม” ต่อไปนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่เขตซีกโลกเหนือ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม ที่เขตซีกโลกใต้ ห้ามเดินทางไปยัง/ผ่าน/ออกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดทั้งปี
สุนัข
- อาฟเฟ็นพิ้นเชอร์
- บอสตันเทอร์เรีย
- บ็อกเซอร์ (ทุกสายพันธุ์)
- บรัสเซลส์กริฟฟิน
- บูลด็อก (ทุกสายพันธุ์)
- บูลเทอร์เรีย
- ปั๊ก (ทุกสายพันธุ์)
- เชาเชา
- ด็อจ เด บอร์โดซ์
- อิงลิชทอยสแปเนียล
- เจแปนนิส ชิน/ เจแปนนิส สแปเนียล/ ชินชิน
- คาวาเลียร์คิงชาร์ลสเปเนียล
- ลาซาแอปโซ
- มาสทิฟฟ์ (ทุกสายพันธุ์)
- ปักกิ่ง
- ปรีซ่า คานาริโอ
- ชาห์เป
- ชิห์สุ
- ทิเบตัน สแปเนียล
แมว
- เบอร์มีส
- หิมาลายัน
- เปอร์เซีย (เช่น ชินชีลา)
- แมวเอ็กโซติค ช็อตแฮร์
ประเทศที่ห้ามขนส่ง
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปนี้เป็นเขตห้ามขนส่งสุนัข/แมวสายพันธ์หน้าสั้น (จมูกสั้น) ตลอดทั้งปี
- กัมพูชา
- อินโดนีเซีย
- มาเลเซีย
- ฟิลิปปินส์
- สิงคโปร์
- ไทย
- เวียดนาม
โปรดทราบ: แผนการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดังข้างต้นในทุกเส้นทางจะไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน
- ตัวอย่างที่ 1: ลอสแอนเจลิส ไทเป-ไทเป ลอนดอน (ไม่อนุญาตให้ขนส่งได้เนื่องจากเส้นทางไทเป/ลอนดอน)
- ตัวอย่างที่ 2: ลอสแอนเจลิส ไทเป-ไทเป มะนิลา (ไม่อนุญาตให้ขนส่งได้เนื่องจากมีจุดหยุดพักในมะนิลา)
- ไทเป-ปารีส และปารีส-ไทเป สามารถขนส่งได้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ห้ามให้ขนส่งเนื่องจากเป็นเที่ยวบินตรง
- ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในรายการข้างต้น ช่วงเวลาการห้ามขนส่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายนสำหรับซีกโลกเหนือ และระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมสำหรับซีกโลกใต้ของทุกปี
สุนัขอันตราย
สุนัขสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายและสุนัขข้ามสายพันธุ์ดังต่อไปนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งตลอดทั้งปี
- อเมริกันพิทบูล (เทอร์เรีย)
- อเมริกันสแตฟฟอร์ดเชียร์
- เทอร์เรีย ฟิล่า บราซิลเลียโรส์
- เจแปนนิสโทสะ
- พิทบูล เทอร์เรีย
- โดโก้ อาร์เจนติโน่ (อาร์เจนทีน มาสทิฟฟ์)
- เคน คอร์โซ่
ข้อจำกัดของรัฐบาล
- ไต้หวัน R.O.C.: มาตรา 119-3 ของพระราชบัญญัติการบินพลเรือนของไต้หวัน ROC ระบุว่าบุคคลใดนำสัตว์เข้าไปในสนามบิน ซึ่งเป็นการรบกวนต่อสุขภาพ ความเป็นระเบียบ และความปลอดภัย จะต้องเสียค่าปรับตั้งแต่ NT 5,000 ถึง NT 25,000 ผู้ดำเนินการทางสนามบินอาจร่วมกับสำนักงานกองบินตำรวจบังคับให้เขาหรือเธอต้องออกจากสนามบินได้
- ออสเตรเลีย: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าบริสเบนเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสารหรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงออกจากบริสเบนได้ อนุญาตให้นำสุนัขที่จะคอยให้ความช่วยเหลือในการมองเห็น/การฟัง เดินทางพร้อมกับผู้โดยสารที่มีความบกพร่องทางสายตาหรือการได้ยิน ไปยัง/มาจากห้องโดยสารโดยการจูงได้
- สหราชอาณาจักร: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงและสุนัขช่วยในการมองเห็น/ช่วยฟังเข้าสหราชอาณาจักรโดยเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสาร หรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้า แต่จะสามารถนำออกจากสหราชอาณาจักรโดยเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้าได้เท่านั้น โปรดทราบว่า เมื่อเดินทางออกจากสนามบินฮีทโธรว์ ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมด้วยสัตว์เลี้ยงจะต้องเช็คอินที่เคาน์เตอร์เป็นเวลา 2.5 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- ฮ่องกง: ห้ามนำสัตว์เลี้ยงและสุนัขช่วยในการมองเห็น/ช่วยฟังเข้าฮ่องกงโดยเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสาร หรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้า แต่จะสามารถนำออกจากฮ่องกงโดยเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องในห้องโดยสาร หรือกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องในห้องเก็บสินค้าได้
- มาเก๊า: เนื่องจากในปัจจุบันผู้โดยสารจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบกักตัวที่โรงแรมเป็นระยะเวลา 14 วันเมื่อเดินทางมาถึงมาเก๊า ดังนั้นในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในสถานการณ์ COVID-19 จะอนุญาตให้ผู้โดยสารขนส่งสัตว์เลี้ยงได้ในรูปแบบของการขนส่งสินค้าเท่านั้น
- จีน: ตามคำแถลงข้อที่ 5 ของปี 2019 จากสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ประกาศในเรื่องการควบคุมการเข้าและการกักกันสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม) สัตว์เลี้ยงที่ผ่านการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด รวมถึงการฝังไมโครชิปที่เดินทางเข้าประเทศจีนจากประเทศที่กำหนดหรือประเทศที่ไม่ได้กำหนดไว้ (เช่น ไต้หวัน) จะไม่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 30 วันและสามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้โดยตรงเมื่อเดินทางมาถึง โปรดคลิกที่นี่สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้โดยสารแต่ละท่านสามารถนำสุนัขหรือแมวมาได้เพียงตัวเดียวต่อครั้งเท่านั้น คุณสามารถติดต่อด่านกักกันของสนามบินเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการเดินทาง
- สหรัฐอเมริกา: ผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงไปยังสหรัฐอเมริกาโปรดดูรายละเอียดที่การนำสัตว์เข้าสหรัฐอเมริกา โปรดทราบว่าเริ่มตั้งแต่ 14 ก.ค. 64 จะมีการระงับการนำสุนัขเข้าชั่วคราวจากประเทศซึ่ง CDC พิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงสูงของโรคพิษสุนัขบ้า คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่
- แคนาดา: หน่วยงานบริการชายแดนแคนาดา (CBSA) มีกฎระเบียบพิเศษสำหรับการขนส่งสัตว์ที่มีชีวิตเชิงพาณิชย์ (รวมถึงสุนัขที่ถูกส่งไปเพื่อการรับเลี้ยง) โปรดคลิก การนำเข้าหรือเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- สามารถขอรับกฎระเบียบเฉพาะประเทศและเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมได้จาก IATA's Traveler's Pet Corner
สัตว์เลี้ยงที่นับเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง (AVIH)
อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเดินทางทางอากาศได้ เมื่อถูกขนส่งในกรงซึ่งต้องเป็น
- กรงสัตว์เลี้ยงที่เป็นวัสดุพลาสติกแข็งตามข้อบังคับของ IATA ที่มีเพียงประตูเดียวสำหรับให้สัตว์เลี้ยงเข้า/ออก และสามารถป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่ให้หลุดออกมาหรือป้องกันกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงได้
- มีช่องระบายอากาศที่เปิดออกได้มากกว่าหนึ่งด้าน มองเห็นได้ง่ายว่าเป็นกรงสัตว์ มีวัสดุดูดซับความชื้นคลุมด้านล่างหรือพื้นของกรง
- ความสูง: ความสูงของสัตว์ในตำแหน่งยืนโดยไม่สัมผัสกับหลังคากรง
- ความยาว: ตั้งแต่จมูกไปจนถึงโคนหาง บวกกับความสูงครึ่งหนึ่งจากพื้นไปจนถึงข้อศอก
- ความกว้าง: สองเท่าของหัวไหล่ทั้งสองข้างของสัตว์
- สัตว์แต่ละตัวในกรงจะต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะหมุนกลับตัวได้ตามปกติในขณะยืน เพื่อที่จะยืนและนั่งตัวตรง และนอนในท่าที่เป็นธรรมชาติได้
- ต้องมีอาหารและน้ำในช่องใส่อาหารอย่างเหมาะสมที่ยึดกับกรงอย่างแน่นหนา
- โปรดดูกรงสัตว์มาตรฐานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA) ตามด้านล่างนี้
- ตัวอย่างกรงสัตว์ที่ไม่เหมาะสม: กรงสัตว์ที่ทำจากตระแกรงปิดตายทั้งหมด ตาข่ายลวด เครื่องจักรสาน กระดาษแข็ง หรือวัสดุที่ยุบตัวได้ และห้ามมีประตูเข้า/ออก 2 ทางอย่างเด็ดขาด
- ห้องที่จะนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปเก็บไว้จะมีความดันและอุณหภูมิเช่นเดียวกันกับห้องโดยสารของผู้โดยสาร
- จำนวนสัตว์เลี้ยงต่อกรงที่อนุญาตให้มีได้ มีดังนี้
- น้ำหนักรวมของสัตว์เลี้ยงและกรง >14 กก.: สัตว์เลี้ยง 1 ตัวต่อกรง
- อายุสัตว์ ≧ 4 เดือน และน้ำหนักรวมของสัตว์เลี้ยงและกรง ≤14 กก.: ให้มีสัตว์เลี้ยงได้สูงสุด 2 ตัวโดยมีขนาดตัวใกล้เคียงกันต่อกรง (แมว 2 ตัว สุนัข 2 ตัว หรือกระต่าย 2 ตัว)
- หมายเหตุ: ขนาดของกรงควรสัมพันธ์กับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หากสัตว์สองตัวอยู่ในกรงเดียวกัน ขนาดของกรงจะต้องเท่ากับ 3เท่าของความกว้างของสัตว์ตัวที่ใหญ่ที่สุด หากน้ำหนักรวมของสัตว์เลี้ยงและกรงเกิน 14 กก. สัตว์แต่ละตัวจะต้องมีกรงของตัวเอง
ค่าธรรมเนียม
สัตว์เลี้ยงของคุณรวมถึงกรงที่รับเป็นกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องได้จะมีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บเป็นสัมภาระส่วนเกิน และไม่นับรวมอยู่ในกระเป๋าสัมภาระที่อนุญาตให้ฟรีของคุณ เมื่อเดินทางไปพร้อมกับผู้โดยสารผู้ซึ่งต้องพึ่งพาสัตว์เหล่านี้ สุนัขที่ช่วยในการมองเห็น/การได้ยินจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องไปด้วยได้ฟรี โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนัก
ระบบน้ำหนัก (ยกเว้นประเทศที่ใช้หลักการคำนวณเป็นจำนวนชิ้น)
มีค่าธรรมเนียม 1.5 เท่าของน้ำหนัก
เช่น หากคุณเดินทางจากไทเปไปยังนาริตะพร้อมด้วยสุนัขหนัก 10 กก. (สัตว์เลี้ยง + กรง) คุณจะมีค่าธรรมเนียมเป็น 225 ดอลลาร์สหรัฐ (10 กก. x 1.5 = 15 กก. และ 15 กก. X 15 ดอลลาร์สหรัฐ = 225 ดอลลาร์สหรัฐ)
ระบบจำนวนชิ้น (ไปยัง/มาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดาและประเทศต่าง ๆ ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้)
น้ำหนัก ≦ 32 กก.: จะใช้อัตราค่าธรรมเนียมสัมภาระส่วนเกินเท่ากับ 2 ยูนิต
น้ำหนักมากว่า 32 กก. และ ≦ 42 กก.: จะใช้อัตราค่าธรรมเนียมสัมภาระส่วนเกินเท่ากับ 4 ยูนิต
น้ำหนัก > 42 กก.: จะใช้อัตราค่าธรรมเนียมสัมภาระส่วนเกินเท่ากับ 6 ยูนิต
*หมายเหตุ: น้ำหนักมากกว่า 50 กก. ต้องได้รับการอนุมัติจาก EVA Air ก่อนออกเดินทาง ขนาดกรงโดยรวม 3 ด้านต้องน้อยกว่า 292 ซม. (115นิ้ว)
โปรดตรวจสอบ ตารางค่าธรรมเนียมสัมภาระส่วนเกิน สำหรับการขนส่งสัตว์ระหว่างสายการบินอาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสายการบิน โปรดปรึกษาสำนักงานสำรองที่นั่งของ EVA หรือตัวแทนการท่องเที่ยวของคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม