สัมภาระล่าช้า / สูญหาย / เสียหายและข้อจำกัดต่างๆ
การเคลม
หากกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องของคุณมาถึงล่าช้า สูญหายหรือได้รับความเสียหายทั้งหมดหรือบางส่วน โปรดแจ้งให้เราทราบที่สำนักงานประจำสนามบินของเราหรือติดต่อตัวแทนผู้ทำหน้าที่ดูแลประจำภาคพื้นทันทีที่เดินทางมาถึง หากคุณเดินทางออกจากสนามบินไปแล้ว คุณสามารถกดคลิกลิงก์นี้เพื่อแจ้งให้สายการบินทราบ หรืออาจจะเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ติดต่อสำนักงานกระเป๋าสัมภาระของ EVA Air ได้ (กรุณาคลิกที่สนามบินต่าง ๆ ทั่วโลก) โปรดทราบว่าการเคลมกระเป๋าสัมภาระที่สูญหายหรือเสียหายบางส่วนนั้น จะต้องส่งคำร้องภายในเจ็ด (7) วัน (นับจากวันถัดไปของวันที่ลูกค้าได้รับกระเป๋าสัมภาระ) การเคลมกระเป๋าสัมภาระที่ล่าช้าหรือสูญหายทั้งหมดต้องส่งคำร้องภายในยี่สิบเอ็ด (21) วัน (นับจากวันถัดไปของวันที่กำหนดว่ากระเป๋าสัมภาระจะมาถึง)
ติดตามกระเป๋าสัมภาระ
หากคุณไม่ได้รับกระเป๋าสัมภาระของคุณที่ปลายทาง เราจะนำข้อมูลสัมภาระของคุณไปไว้ในระบบติดตามกระเป๋าสัมภาระจากทั่วโลกและจะนำส่งกระเป๋าสัมภาระให้ถึงมือคุณโดยเร็วที่สุด ตัวเลือกด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบสถานะของกระเป๋าสัมภาระของคุณได้:
- ติดต่อสำนักงานให้บริการด้านกระเป๋าสัมภาระของ EVA Air โปรดคลิก "สนามบินต่างๆทั่วโลก"
- ติดตามกระเป๋าสัมภาระทางออนไลน์ : ป้อนหมายเลขเอกสารอ้างอิงและนามสกุลของคุณ
หากกระเป๋าสัมภาระของคุณยังสูญหายหลังจากห้า (5) วัน เราจะส่งแบบฟอร์ม Baggage Claim/Inventory Form ให้คุณกรอก แบบฟอร์มนี้จะช่วยเราในการตามหากระเป๋าสัมภาระของคุณและดำเนินการเรื่องค่าชดเชยที่เกี่ยวข้อง โปรดกรอกแบบฟอร์มและส่งกลับมายัง EVA Air โดยเร็วที่สุด
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) แนะนำให้ผู้โดยสารรายงานกระเป๋าสัมภาระสูญหายไปยังสายการบินท้ายสุดที่ใช้เดินทางมาในกรณีที่การเดินทางนั้นมีสายการบินที่เกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งสายการบิน ในกรณีของกระเป๋าสัมภาระล่าช้า เสียหาย หรือสูญหาย โปรดติดต่อสายการบินท้ายสุดที่ใช้เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของคุณ
กระเป๋าสัมภาระเสียหาย
EVA Air และตัวแทนจะดำเนินการกับกระเป๋าสัมภาระทุกใบด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้ภายใต้สถานการณ์บางอย่าง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์ของคุณ โปรดตรวจสอบสภาพของกระเป๋าสัมภาระทันทีที่ได้นำออกมาจากสายพานลำเลียงกระเป๋า หากพบความเสียหาย โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินที่อยู่ในบริเวณรับกระเป๋าสัมภาระ เราจะดำเนินการซ่อมแซมและส่งคืนให้คุณต่อไป หรือโดยคำนึงถึงระดับของความเสียหาย ปัจจัยเรื่องเวลา และอัตราการเสื่อมค่าของกระเป๋าสัมภาระแล้ว เราอาจจะเสนอข้อเสนออย่างอื่นนอกจากการซ่อมแซม
หากคุณสังเกตเห็นความเสียหายหลังจากที่ได้นำกระเป๋าออกจากบริเวณรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว EVA Air ขอสงวนสิทธิ์ในการยอมรับตามเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นโดยอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องหรือกฎหมายหรือข้อบังคับอื่น ๆ EVA Air จะไม่รับผิดชอบต่อกระเป๋าสัมภาระที่อยู่นอกเหนือนการควบคุมดูแลของเรา ความเสียหายเล็กน้อยและความผิดปกติของสัมภาระในกรณีดังต่อไปนี้
- ความบกพร่องในวัสดุของกระเป๋าสัมภาระเองหรือการเสื่อมสภาพหลังการใช้งาน
- รอยบิ่นเล็กน้อย รอยแผล รอยขีด รอยครูด รอยแตก คราบสกปรก และรอยเปื้อน
- ส่วนที่ยื่นออกมาเช่น ฝาปิด/สายคล้อง/ตะขอ/สายรัด/ตัวล็อค/ป้ายชื่อ
- ความเสียหายจากการบรรจุสิ่งของในกระเป๋าสัมภาระมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
- ความเสียหายหรือการฉกฉวยอันเป็นผลมาจากการสุ่มค้นโดยหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) หรือการตรวจด้านความปลอดภัยอื่นๆ ในแต่ละประเทศ
- สภาพของกระเป๋าสัมภาระได้รับความเสียหายอย่างชัดเจนเมื่อนำออกจากสายพานลำเลียง แต่ไม่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สนามบินที่อยู่ในบริเวณรับกระเป๋าในทันที
Dents | Wear of wheels | Damage of protruding parts |
---|---|---|
Dents | Wear of wheels | Damage of protruding parts |
การชดเชยต่อกระเป๋าสัมภาระ
ความรับผิดชอบของ EVA Air อาจถูกจำกัดต่อการสูญหาย ความเสียหาย หรือความล่าช้าในการจัดส่งสิ่งของแตกหักง่ายหรือเน่าเสียง่าย ยา เงิน เครื่องเพชร แร่มีค่า เครื่องเงิน เอกสารที่เปลี่ยนมือได้ หลักทรัพย์ เอกสารธุรกิจ/ส่วนตัว เลนส์ กุญแจ งานศิลปะ เครื่องดนตรี ภาพถ่าย ผลิตภัณฑ์ขนสัตว์ธรรมชาติ ฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ หรือส่วนประกอบ/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
EVA AIR ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ควรนำของมีค่า เอกสารสำคัญ หรือเงินใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง ไม่ควรนำสิ่งของที่แตกหักหรือเน่าเสียง่ายใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องด้วยเช่นกัน การเดินทางไปยัง/มาจากแคนาดาจะสามารถคืนเงินค่าบริการด้านกระเป๋าสัมภาระหากผู้โดยสารได้จ่ายค่ากระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องอย่างน้อยหนึ่งรายการและกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องนั้นเกิดล่าช้า สูญหาย หรือได้รับความเสียหาย
กระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง:
ความรับผิดชอบต่อกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องนั้นมีข้อจำกัดตามอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องว่าด้วยเรื่องการเดินทางทางอากาศสากล อนุสัญญาที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นไปตามข้อตกลงของอนุสัญญาวอร์ซอ หรืออนุสัญญามอนทรีออลที่มีผลบังคับใช้ และข้อกำหนดของเงื่อนไขทั่วไปของการขนส่งของ EVA Air
กระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง:
กระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง (ที่ไม่ได้เช็คอิน) รวมถึงสิ่งของที่คุณถือติดตัวเข้าไปในห้องโดยสารและอยู่ภายใต้การดูแลของคุณตลอดการเดินทาง EVA จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญหายหรือเสียหายต่อกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง (ที่ไม่ได้เช็คอิน) เว้นแต่ว่าความสูญหายหรือความเสียหายดังกล่าวจะเกิดจากการปล่อยปละละเลยของ EVA ในกรณีดังกล่าว ความรับผิดชอบของ EVA จะถูกจำกัดตามอนุสัญญาด้านการเดินทางทางอากาศสากลที่เกี่ยวข้อง อนุสัญญาที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นไปตามข้อตกลงของอนุสัญญาวอร์ซอ หรืออนุสัญญามอนทรีออลที่มีผลบังคับใช้ และข้อกำหนดของเงื่อนไขทั่วไปของการขนส่งของ EVA Air
กระเป๋าสัมภาระที่ไม่มีผู้รับ
กระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง:
ในฐานะผู้โดยสาร คุณมีสิทธิ์ที่จะรับกระเป๋าสัมภาระของคุณเองที่บริเวณที่รับกะเป๋าสัมภาระที่สนามบิน หากไม่มารับกระเป๋าสัมภาระ และผู้โดยสารไม่สามารถมารับกระเป๋าสัมภาระภายใน 30 วัน การทิ้งกระเป๋าสัมภาระนั้นจะอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของ EVA
ทรัพย์สินที่ไม่มีเจ้าของ:
ทรัพย์สินที่ไม่มีเจ้าของที่พบภายในห้องโดยสารจะถูกเก็บรักษาไว้โดยสำนักงานด้านกระเป๋าสัมภาระของ EVA เป็นเวลา 20 วัน หรือโดยเจ้าหน้าที่ของสนามบินท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับว่าของสิ่งนั้นเป็นอะไร หากคุณพบสิ่งของส่วนตัวที่ถูกลืมไว้ในห้องโดยสารบนเครื่องบิน โปรดติดต่อสำนักงานด้านกระเป๋าสัมภาระของ EVA โดยทันที โปรดคลิก "สนามบินต่างๆทั่วโลก"
เที่ยวบินรหัสร่วม
ในบริการบางครั้ง เรามีการดำเนินการร่วมกับสายการบินอื่นๆ ที่เรียกว่า “เที่ยวบินรหัสร่วม” ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าคุณจะจองบัตรโดยสารกับเรา และถือบัตรโดยสารที่ระบุชื่อและรหัสสายการบินของเราว่าเป็นสายการบินที่ให้โดยสาร แต่สายการบินอื่นอาจเป็นผู้ดำเนินการควบคุมการบิน ผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินที่ดำเนินการโดยสายการบินอื่นต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของสายการบินที่ให้บริการ โดยเราและตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อคุณทำการจอง เงื่อนไขของผู้ดำเนินการบินซึ่งมีข้อกำหนดแตกต่างจากของเรา รวมถึงการชดเชยต่อความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้น จะเป็นความรับผิดชอบของสายการบินนั้นผู้ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโดยสาร